ตอนที่ 34: ดวงดาวที่หล่นลงมาจากท้องฟ้า

ความรวมโดยย่อ

วันหนึ่งโคจิกลับจากโรงเรียน เมื่อถึงบ้านก็พบไดอารี่ของหญิงสาวเล่มหนึ่งติดมาในกระเป๋าด้วย ในช่วงท้ายๆเขียนไว้ว่า “ สิ้นหวัง...สิ้นหวัง...สิ้นหวัง … อยากตาย ” ไดอารี่ลงชื่อไว้ว่า คูมิ นากาโน่ ซึ่งเป็นนักเรียนภาคค่ำ (นั่งที่เดียวกับโคจิ) ที่อาโอบะ โคจิคิดว่า คูมิ มีความคิดโง่ๆ จึงเขียนตอบกลับใส่กระดาษสอดไว้ในไดอารี่และนำไปคืนไว้ในลิ้นชัก

คูมิ ดีใจที่ได้ไดอารี่กลับคืน แต่พบว่ามีการะดาษสอดอยู่ข้างใน จึงเปิดอ่าน

จาก โคจิ “ ชีวิตคนเราก็มีช่วงตกต่ำ แต่ความตายเป็นเรื่องไม่ควรแม้แต่จะคิด ”

คูมิ เขียนตอบกลับ จากนั้นทั้งคู่จึงเริ่มทะเลาะกันทางจดหมาย

ด้วยเหตุที่พ่อของ คูมิ หายตัวไป และยังถูกหัวหน้างานหักหลัง คูมิ จึงไม่อยากไว้ใจใครอีก ในที่สุด คูมิ ตัดสินใจที่จะหยุดการทะเลาะทางจดหมายและขอนัดคุยกับโคจิ

วันหนึ่ง คูมิ พาน้องชาย (อิซามุ) ไปเที่ยวโตเกียว โดยโคจิพาไปชมสนามแข่งเบสบอล โคราคุเอ็น จากนั้นโคจิและคูมิก็ไปตามหาเพื่อนร่วมห้องเดิมที่ชื่อ ทาคาเอะ ชิมิสึ ซึ่งเคยทำงานด้วยกันที่ คานากาว่า แต่ตอนนี้ย้ายมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในบาร์แถบในโตเกียวเพราะมีรายได้ดีกว่า

คูมิ ชักชวนให้ทาคาเอะ กลับมาทำงานที่เดิมแต่ไม่เป็นผล ทำให้ คูมิ ท้อแท้ โคจิ พยายามให้กำลังใจ คูมิ แต่ทั้งคู่กลับทะเลาะกันทางความคิด คูมิ บอกกับโคจิ ว่า โลกของเธอกับของโคจิ นั้นแตกต่างกัน และยังเปิดแขนเสื้อให้ดูแผลเป็นที่เกิดจากการทำงานในโรงงาน เพื่อนของเธอบางคนสูญเสียแขน หรือ นิ้วมือ ในการทำงาน คำพูดดังกล่าวกลับไม่ทำให้โคจิยอมรับได้ ในที่สุดทั้งคู่ก็เลิกติดต่อกัน

ที่โรงงาน คูมิ เริ่มถูกหัวหน้า นากาโมโต้ ที่เป็นเสือผู้หญิงจับตา ทาคาเอะเห็นเหตุการณ์และรู้ว่า คูมิ ตกอยู่ในอันตราย จึงไปบอกโคจิ โคจิจึงไปที่บ้าน คูมิ และขอนัดพบอีกสักครั้ง แต่ คูมิ ปฏิเสธ โคจิบอกว่า อย่างไรก็จะรอพบในวันอาทิตย์ตอนเย็น ที่สวนสาธารณะใกล้ทะเล

ฝนตกหนักวันอาทิตย์ โคจิไปยืนรอ คูมิ จนค่ำแต่ คูมิก็ไม่ปรากฏตัว คูมิ คิดว่าจะไม่พบหน้าโคจิอีก แต่แล้ว นากาโมโต้ ก็โผล่เข้ามาที่ห้องพัก บอกให้ คูมิ ไปขอโทษผู้จัดการโรงงานพร้อมกับตนเรื่องที่ คูมิ ไม่ได้ไปทำงานหลายวัน คูมิ ขึ้นรถไปกับ นากาโมโต้ ฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ คูมิ เริ่มรู้สึกไม่ดีและขอให้ นากาโมโต้ ส่งเธอกลับ แต่ นากาโมโต้ไม่ยอม ในระหว่างที่รถติดไฟแดง คูมิ ตัดสินใจวิ่งออกจากรถและ วิ่งไปที่สวนสาธารณะกลางสายฝน เห็นโคจิที่ยืนรออยู่ ทั้งคู่ ต่างวิ่งเข้าหากัน

จากนั้นทั้งคู่กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ และเขียนไดอารี่ตอบกัน

“ โคบายาชิ โชคดีเหลือเกินที่ได้พบกับเธอ การได้เห็นเธอยืนรอในสายฝนวันนั้นช่างประทับใจเสียเหลือเกิน ทำให้ฉันมีความเชื่อถือในคนๆหนึ่ง ฉันจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต โดยเฉพาะคำพูดของเธอที่ว่า คนที่ไม่เชื่อในคน แล้วจะไปเชื่ออะไรได้อีก ”

“ นากาโน่ (คูมิ) เมื่อได้มองเธอ ก็เสมือนเห็นดวงดาวในคืนที่มืดมิด การดำเนินชีวิตของเธอนับจากนี้ก็เปรียบเสมือนมี แสงสว่าง นำทาง เรื่องของคุณพ่อ ท่านคงไม่ได้จงใจจากไปและคงกลับมาไม่วันใดก็วันหนึ่ง จงมีความเชื่อถือที่จะรอ ความเชื่อถือที่เสมือนสิ่งที่สวยงามที่สุดของชีวิต ”

หมายเหตุ

1. Ore wa Otokoda ! (ข้าคือ ลูกผู้ชาย !) เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตวัยรุ่น แต่ก็เกี่ยวพันไปกับชีวิตทำงานได้แทบทุกตอน โดยเฉพาะในตอนนี้ ความลำบากใจของ คูมิ ที่ถูกบรรยายสู่โคจิ แต่ความยึดมั่นในสิ่งถูกต้องของโคจิ “ คนทีขาดความเชื่อถือในตัวคน แล้วจะไปเชื่ออะไร ” ทำให้ คูมิ มีกำลังใจและมีศรัทธากับคน (เธอทำงานในโรงงานนะครับ ฉะนั้นจึงอยู่กับเครื่องจักร มากกว่าอยู่กับคน)

2. ถ้าตอนนี้เป็นตอนใดตอนหนึ่งในช่วงแรกของเรื่องนี้ การแลกเปลี่ยนไดอารี่กับนักเรียนหญิง รวมไปถึงการนัดเดทในวันอาทิตย์ คงทำให้ มิซาโอะ โมโหได้ในพริบตา ทว่าในตอนนี้ มิซาโอะ มีแต่ความช่วยเหลือและเห็นอกเห็นใจ จากการต่อสู้ที่จะล้มล้าง อำนาจของผู้หญิง กลับกลายมาเป็น การร่วมมือเพื่อพลัง ในที่สุด

3. KFC ( Kentucky Fried Chicken ) เปิดทดลองบริการครั้งแรกในญี่ปุ่นที่โอซาก้าเมื่อปี 2513 ส่วนที่เปิดสาขาแรกแบบเป็นทางการ (สาขา Enoshima) คือเดือนกันยายน 2514 ในเรื่อง โคจิกับคูมิ ไปทานอาหารกันที่สาขาแรกของ KFC ที่เปิดเป็นทางการนะครับ